สาเหตุการตายและข่าวลือต่าง ๆ ของ อง_เหม่ยหลิง

เหตุการณ์ก่อนวันเสียชีวิต

ลำดับเหตุการณ์ในเดือนที่เธอเสียชีวิต (14 วันสุดท้ายในชีวิตของเธอ)

1 พ.ค. 2528 ตอนบ่าย ๆ ได้ทำพิธีเปิดกล้องละครใหม่เรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) ที่ทางบริษัททีวีบีได้วางตัว องเหม่ยหลิง เป็นนางเอก และ ทังเจิ้นเยี่ย เป็นพระเอก ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกในบทบาทคู่พระนางของเรื่อง เธอตื่นเต้นมากที่ได้เล่นประกบคู่กับเขาและหวังว่าจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อคืนดีกับฝ่ายชายเพราะในช่วงเวลานั้นมีข่าวรัก ๆ เลิก ๆ ของคนทั้งคู่มาได้ระยะหนึ่ง หลังจากทำพิธีเปิดกล้องละครเสร็จสิ้น นักข่าวได้ขอถ่ายรูปคู่ของคนทั้งสองในฐานะพระนางของละครเรื่องนี้ แต่ องเหม่ยหลิงดูเกร็งและชักสีหน้าออกมาไม่ค่อยดีนัก ทำให้ ทังเจิ้นเยี่ย หัวเสียเป็นอย่างมาก หลังจากการถ่ายทำในคืนนั้นเขาได้ออกจากกองถ่ายทันที และเมื่อเธอออกมาพบว่าเขาได้ออกจากกองถ่ายไปแล้วโดยไม่รอเธอ ทำให้เธอโกรธมาก คืนนั้นเธอออกจากกองถ่ายไปแต่ไม่กลับไปยังที่พัก เธอไปเที่ยวดิสโก้ต่อกับเพื่อนสาวนอกวงการโดยมี โจวซื่อหลุง เพื่อนชายคนใหม่ของเธอไปด้วย คืนนั้นเธอกินเหล้าเมามายอย่างหนักจนเพื่อนสาวที่ไปเที่ยวด้วยกันต้องช่วยกันพาเธอกลับมายังที่พัก โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ทังเจิ้นเยี่ย มารอเธออยู่ในห้องพักตั้งแต่ออกจากกองถ่ายแล้ว และเขาก็รู้ว่าเธอออกไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุง (ลูกไฮโซ เศรษฐีนอกวงการที่มีข่าวลือว่าตามจีบเธอ) พอเขาเปิดประตูออกมาเห็นสภาพเมามายของเธอแล้วไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ถึงขั้นแตกหัก[53][54]

2 พ.ค. 2528 ประมาณเที่ยง ทังเจิ้นเยี่ยเก็บเสื้อผ้าที่มีอยู่ทั้งหมดออกจากห้องพักของเธอ ทั้งสองแยกทางกัน เขาได้กล่าวอำลาเธอทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมาก

3 พ.ค. 2528 เธอไปออกรายการเกมส์โชว์ "การแข่งขันงานกุศลคนดัง"(Celebrity Charity Competition) โดยมีดาราหลายคนได้เข้าร่วมการแข่งขันงานกุศลในครั้งนี้ ซึ่งในวันนั้นเธอได้ร่วมทีมแข่งขันดารากับ โจวเหวินฟะ และ ชีเหม่ยเจิน และนับได้ว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเธอบนหน้าจอทีวี

4 พ ค. 2528 (ก่อนเธอจะเสียชีวิต 10 วัน) องเหม่ยหลิง ได้ไปเล่นไพ่นกกระจอกกับนักแสดงท่านอื่น ๆ วันนั้น องเหม่ยหลิง เธอดูเป็นปกติ และยังได้พูดชักชวนนักแสดงรุ่นน้า "ซูชิงฉวน" 苏杏璇 (นักแสดงที่รับบทเป็น แม่ของ "ก๊วยเจ๋ง" ใน มังกรหยก เวอร์ชันเดียวกันกับเธอ) ให้มาเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน แต่ ซูชิงฉวน ปฏิเสธไป

  • (ต่อมาหลังจาก องเหม่ยหลิง ได้เสียชีวิตไปแล้ว "ซูชิงฉวน" ได้กล่าวว่า ฉันเสียดายเป็นอย่างมาก ถ้าวันนั้นฉันตอบตกลงเล่นไพ่นกกระจอกกับอง เหม่ยหลิง และถ้าเธอมีเรื่องไม่สบายใจจริง ๆ ก็คงได้มีโอกาสคุยและปรับทุกข์กันบ้าง แต่ฉันไม่รู้เลยว่า องเหม่ยหลิง ในตอนนั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง เพราะวันนั้น เธอดูร่าเริงและดูมีความสุข เท่าที่ฉันสังเกตเห็นได้จากใบหน้าของเธอ) [55]

5 พ.ค. 2528 เธอได้ให้หมอดูฮวงจุ้ย ซึ่งเพื่อนสาวของเธอเป็นคนแนะนำมาปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยภายในห้อง เพื่อว่าเธอกับทังเจิ้นเยี่ยจะได้กลับมาคืนดีกันเพราะเธอเชื่อว่าสาเหตุการทะเลาะกับ ทัง เจิ้นเยี่ยอยู่เป็นประจำอาจจะมาจากฮวงจุ้ยในห้องไม่ดี

6 พ.ค. 2528 เธอไปถ่ายรูปลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นการถ่ายรูปลงนิตยสาร ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ

7 พ.ค. 2528 ฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 26 ปีกับแฟนคลับส่วนตัว ไร้เงา ทังเจิ้นเยี่ย มาร่วมงาน

8-10 พ.ค. 2528 สามวันได้เข้าถ่ายทำ อัตชีวประวัติ แบบย่อ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของเธอ จนกระทั่งถ่ายเสร็จในตอนเย็นของวันที่ 10 พ.ค. และคืนนั้นเอง องเหม่ยหลิง ก็ได้ไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุงอีกครั้ง

11 พ.ค. 2528 ทั้ง โจวซื่อหลุงและองเหม่ยหลิง ได้ไปเที่ยวเกาะมาเก๊าด้วยกันต่ออีก 1 วัน ในขณะที่ทางฝั่งฮ่องกงช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันเดียวกัน นักข่าวได้ถ่ายภาพดารา 4 คนเอาไว้ได้ โดยมี เหมียว เฉียวเหว่ย, ชี เหม่ยเจิน, ทัง เจิ้นเยี่ย และ อู๋ จวินหยู พวกเขาไปเที่ยวทะเลด้วยกันแต่ไม่มี องเหม่ยหลิง ไปด้วยนักข่าวแปลกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ทังเจิ้นเยี่ย กับ องเหม่ยหลิง น่าจะมีปัญหากันอย่างหนักแล้ว พอตกกลางคืน ทังเจิ้นเยี่ย และ อู๋จวินหยูได้ไปร้องเพลงที่คาราโอเกะด้วยกันอีก และมีนักข่าวถ่ายรูปได้เช่นกัน จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวในวันถัดมา

12 พ.ค. 2528 เมื่อรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันถูกนำมาลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ โดยพาดหัวข่าวว่า "2คู่ชูชื่น" แล้ว องเหม่ยหลิงล่ะ? กลายเป็นข่าวดังสุดฮอตทันที และในวันเดียวกันขณะที่ องเหม่ยหลิง ยังคงอยู่กับ โจวซื่อหลุง ที่มาเก๊าเธอไม่ได้อ่านข่าวแต่อย่างใด และตอนเย็นก็ได้เดินทางกลับมายังฮ่องกง

ในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ก่อน องเหม่ยหลิง จะเสียชีวิตเพียงแค่ 1 วัน

ช่วงเวลาเช้าตรู่ มีนักข่าวคนหนึ่งชื่อ เหลียงเพ่ยอวี้ ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อนัดสัมภาษณ์ส่วนตัว แต่ไม่บอกเธอว่าจะสัมภาษณ์เรื่องอะไร เธอตอบตกลงแต่ให้มาตอนใกล้เที่ยงและเธอรับปากจะเลี้ยงมื้อเที่ยงนักข่าวอีกด้วย

เวลาประมาณ 11.00 น. นักข่าวไปถึงบ้านพักของเธอก่อนเวลานัดราวครึ่งชั่วโมง องเหม่ยหลิง เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จและเปิดประตูต้อนรับ พอนักข่าวเข้าห้องก็รีบหยิบรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันให้เธอดูทันที และถามเธอว่าเห็นรูปนี้ที่เป็นข่าวแล้วหรือยัง เธอจ้องดูรูปราว 2-3 วินาที ก็ยื่นกลับให้นักข่าวและบอกว่า

ยังค่ะ... ช่วงนี้ยุ่ง ๆ เลยไม่มีเวลาอ่านข่าว แต่รูปนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลยนี่คะ ก็แค่พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น

ซึ่งในการพูดคุยกันครั้งนี้นักข่าวเองก็ไม่คาดฝันว่านี้จะเป็นการสัมภาษณ์แบบส่วนตัวครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ ซึ่งในภายหลังนักข่าวคนนี้ได้ออกมาให้ความเห็นว่าในวันนั้น องเหม่ยหลิงดูซึมเศร้าจริง ๆ สาเหตุอาจจะเกิดจากข่าวลือต่างๆ ที่รุมประดังเข้ามาในชีวิตของเธออย่างมากมายก็เป็นได้ เธอบอกกับนักข่าวว่า ช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากและไม่มีความสุขเอาเสียเลยกับข่าวลือที่ว่าเธอไปแย่งแฟนของดาราสาวคนนั้น...คนนี้ เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอยังตัดพ้อต่ออีกว่าในวงการบันเทิงช่างเป็นข่าวง่ายดายเสียเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเวลามีผู้ชายเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ ด้วยความที่เธอเป็นคนสนุกสนานง่าย ๆ ไม่ถือตัว เลยทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจเธอผิด รวมไปถึงข่าวลือที่ว่า เธอกับทังเจิ้นเยี่ย แตกหักกันแล้วเพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้ จนฝ่ายชายได้ตีตัวออกห่างจากเธอแล้วหันไปคบหากับดาราตลกสาวที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียงในขณะนั้น อย่าง อู๋ จวินหยู แทน[56]

เวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากได้พูดคุยกับนักข่าวเสร็จสิ้นแล้ว องเหม่ยหลิงต้องรีบไปที่โรงถ่ายเพื่อเข้าถ่ายทำละครประกบคู่กับทังเจิ้นเยี่ย ในเรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) (橋王之王) ที่เพิ่งจะเปิดกล้องไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

เวลา 13.00 น.(ช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันนั้น) เมื่อเธอไปถึงกองถ่าย ปรากฏว่าเธอโดนนักข่าวนับสิบรุมล้อมสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของฝ่ายชายกับดาราหญิงคนอื่น ตอนนั้นเธอดูเป็นปกติสามารถพูดคุยกับนักข่าวและหัวเราะได้เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่เธอเคยเป็น (ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะฆ่าตัวตาย) แต่ทว่าหลังจากคุยกับนักข่าวแล้วเธอก็เข้าไปในกองถ่าย เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยพบเธอก็มีปากเสียงกันเล็กน้อยเขาได้ถามเธอว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปเที่ยวกับโจวซื่อหลุงสนุกไหม? องเหม่ยหลิง ไม่ตอบแต่ถามเขาถึงเรื่องราวที่เป็นข่าว เขาตอบเธอว่า เขาเป็นคนดีพอและระหว่างเขากับ อู๋จวินหยู ไม่มีอะไรกัน แต่ องเหม่ยหลิงพูดกับเขาว่า ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ทำไมต้องหลบหน้านักข่าวด้วย แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้รู้เรื่องก็ถูกเรียกให้ไปแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปและเข้าฉากถ่ายทำละคร [57]หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองต้องมาถ่ายรูปคู่กันในฐานะพระนางของเรื่องมีนักข่าวบางคนสังเกตเห็นได้ชัดว่าตอนเธอถ่ายรูปคู่กับเขาสีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนักและดูเธอไม่มีความสุขเอามาก ๆ เหมือนมีอะไรในใจ

18.00 น. หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำฉากหนึ่งในวันนั้น ทั้งคู่ได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวเพื่อรอที่จะถ่ายทำฉากต่อไป ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องแต่งตัวก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้ง ต่อมาไม่นานมีคนในกองถ่ายละครได้ยินเสียงเธอกับ ทังเจิ้นเยี่ยทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นแตกหัก และได้ยินเสียงของ องเหม่ยหลิงร้องไห้และพูดขอจบความสัมพันธ์กับฝ่ายชายว่า ดี..ถ้าเป็นแบบนี้เราเลิกกัน (เธอพูดออกไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่ใจจริงเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น) เมื่อฝ่ายชายได้ยินก็ไม่ได้โต้ตอบกลับเพียงแต่เดินออกจากห้องแต่งตัวหายไปจากกองถ่ายอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพัง เป็นเหตุให้กองถ่ายทำต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เพราะต้องจบถ่ายทำฉากที่ทั้งสองต้องแสดงร่วมกันเอาไว้แค่นั้น ในช่วงนี้มีดารารุ่นแม่ หลี่เซี่ยงฉิน (แม่บุญธรรมของเธอในวงการบันเทิง) ได้เข้าไปพูดคุยปลอบใจเธอว่า

ถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ดีไม่อยากถ่ายละครต่อก็ไม่ต้องถ่าย ตอนนี้การแสดงของเธอยังได้รับความนิยมควรมุ่งเป้าหมายของชีวิตไปทางด้านการงานมาก่อนเรื่องความรักนะ

องเหม่ยหลิงเพียงแต่รับฟังในสิ่งที่ดาราแม่บุญธรรมบอกกล่าวแต่ยังคงร้องไห้ ต่อมามีตัวประกอบชายท่านหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทกับเธออาสาจะไปนอนเป็นเพื่อนเธอในวันนั้นแต่ องเหม่ยหลิงปฎิเสธไป ไม่นานผู้กำกับได้ตัดสินใจถ่ายทำฉากตัวละครที่เล่นโดยคนอื่นต่อไป

18.30 น. ตอนเย็นใกล้ค่ำ เธอได้หุนหันพลันแแล่นเดินออกจากกองถ่ายด้วยน้ำตานองหน้าเรียกรถตู้ของทางกองให้ไปส่งเธอที่บ้านพัก เมื่อดาราแม่บุญธรรม "หลี่เซี่ยงฉิน" รู้ก็รีบเดินออกจากกองถ่ายตามเธอไปยังรถตู้บอกจะขอไปส่งเธอที่บ้านพักแต่ องเหม่ยหลิง ปฎิเสธ และนั่งรถตู้ของบริษัทกลับที่พักของเธอตามลำพังโดยไม่มีใครคาดฝันว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็นเธออยู่บนโลกใบนี้[58]

ข่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. คืนนั้น...เธอพยายามงอนง้อขอคืนดีกับฝ่ายชายด้วยการส่งข้อความไปหาเขาทาง เพจเจอร์ เพื่อให้เขาโทรกลับมาเครียร์ปัญหาความรักกับเธอ อยู่หลายครั้งเป็นสิบ ๆ ข้อความแต่ทว่ากลับไม่มีการโทรติดต่อกลับมาแต่อย่างใด (ทราบในภายหลังว่าคืนนั้นฝ่ายชายปิดเครื่องเพราะหลังจากทะเลาะกับเธอแล้วเขายังคงหัวเสียและอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ต้องการพูดคุยหรือติดต่อกับใครจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งมา) องเหม่ยหลิง น้อยใจเพราะเข้าใจผิดคิดว่าฝ่ายชายได้อ่านข้อความของเธอแล้วแต่ไม่สนใจ เธอจึงฝากข้อความสุดท้ายเหมือนกับเธอกำลังจะคิดสั้นส่งไปข่มขู่ฝ่ายชายว่า (อ้างอิงจาก [59])

ถ้าเธอไม่ติดต่อกลับมา เธอจะต้องเสียใจ เพราะนี้จะเป็นข้อความสุดท้ายจากฉันที่เธอจะได้รับ ต่อไปเธอจะไม่มีวันได้พบหน้าและได้ยินเสียงของฉันอีกเลย

โดยเธอหวังว่าเมื่อเขาได้อ่านข้อความนี้แล้วจะเกิดเป็นห่วงเธอขึ้นมาและรีบติดต่อกลับมาหา หลังจากนั้นเธอจะได้ใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับเขาอีกครั้งเพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ทว่าทุกอย่างยังคงเงียบงันและไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 (เข้าสู่วันใหม่ของ วันเกิดเหตุ)

องเหม่ยหลิง ได้ใช้โทรศัพท์โทรออกเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอเพื่อไปปรับทุกข์กับโจวซื่อหลุง [60]รำพึงรำพันตัดพ้อ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่รุมประดังเข้ามาจนทำให้ความรักระหว่างเธอกับทัง เจิ้นเยี่ยนั้นมีอันต้องจบลง ประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะวางสาย เธอพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "เซ็งชีวิตจริง ๆ การมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ฉันเหนื่อยแล้วที่จะทนอยู่แบบนี้" หลังจากนั้นก็วางสายไปตอนประมาณ ตี 1.25 น. โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการเดินไปปิดประตูหน้าต่างที่มีอยู่ทั้งหมด แล้วเปิดแก๊สทิ้งเอาไว้ ตามด้วยกินยานอนหลับแล้วดื่มเหล้าเข้าไปครึ่งขวดทำให้เธอสลบและค่อย ๆ สูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกาย ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เธอวางสาย โจวซื่อหลุง เองก็เกิดรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงเธอมาก กลางดึกคืนนั้นจึงได้ตัดสินใจไปหาเธอที่บ้านพัก เพื่อจะไปปลอบใจเธอ

ตี 2.00 น. ของวันเดียวกัน เมื่อเขาไปถึงหน้าห้องของเธอก็พยายามเคาะประตูเรียกเธออยู่หลายครั้งนานหลายนาที แต่ก็ไม่มีใครตอบหรือเปิดประตูออกมา เขาก็เลยคิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงกลับที่พักไปแล้วค่อยมาใหม่ในตอนเช้า

7.00 น. เช้าตรู่ของวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 โจวซื่อหลุง ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อจะนัดเธอไปทานข้าวเช้าด้วยกัน แต่ทว่ากลับไม่มีใครรับสาย ด้วยความแปลกใจจึงโทรศัพท์ไปสอบถามยัง ร.ป.ภ ผู้ดูแลตึก ว่าเธอได้ออกไปไหนตั้งแต่เช้าเลยหรือเปล่า, ต่อมา ร.ป.ภ ที่รับสายได้แจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ อง เหม่ยหลิงไม่ได้ออกจากห้องไปไหนเลย แต่บริเวณอาคารที่เธอพักมีกลิ่นแก๊สโชยคลุ้งไปทั่วอาคาร แต่ไม่รู้ว่ากลิ่นแก๊สรั่วมาจากห้องไหน ซึ่งตอนนี้ได้ทำการติดต่อไปยังบริษัทแก๊สให้มาตรวจสอบแล้ว เมื่อ โจวซื่อหลุงได้ยินดังนั้นเขาเกิดสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับเธอจึงรีบแต่งตัวและขับรถไปยังที่พักของเธอโดยทันที.

8.00 น. ของวันเดียวกันโจวซื่อหลุง ได้ขับรถมาถึงที่พักของเธอ พอดีกับที่เจ้าหน้าที่บริษัทแก๊สเพิ่งมาถึงแล้วเช่นกัน เมื่อพวกเขาทั้งหมดแน่ใจแล้วว่าแก๊สได้รั่วออกมาจากห้องพักของดาราสาว โจวซื่อหลุง ซึ่งรู้ลู่ทางห้องพักของเธอเป็นอย่างดี ได้ปีนไปทางด้านข้างของห้องพักและงัดหน้าต่างด้านข้างออกเพื่อเข้าไปในห้องพักของเธอ พอเข้าไปได้ เขาได้กลิ่นแก๊สรุนแรงโชยไปทั่วห้อง สังเกตเห็นขวดเหล้า (บรั่นดี) ที่เปิดดื่มแล้วครึ่งขวดกับแก้วบรั่นดีตกอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น และบริเวณห่างกันไม่มากนักพบร่างของเธอสวมชุดนอนสีชมพูนอนโคม่าหมดสติอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นใกล้กับประตูห้อง เมื่อเขาเห็นดังนั้นสิ่งแรกที่ทำได้คือ โทรหาตำรวจ แล้วจึง นำร่างของเธอที่ไม่ได้สตินำส่งโรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" ซึ่งอยู่แถวเกาลูนใกล้บริเวณที่พักอย่างเร่งด่วน แต่ทุกอย่างช้าไปเธอได้สิ้นใจระหว่างทางนำส่งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น.

8.50 น. ถึงโรงพยาบาล แพทย์พยายามช่วยเหลือชีวิตของเธอแต่ไม่สำเร็จ

9.00 น. ทางโรงพยาบาล แจ้งว่า ไม่สามารถช่วยชีวิตของ อง เหม่ยหลิง เอาไว้ได้ เพราะ เธอได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะเดินทางมาถึงโรงพยาบาล สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะยานอนหลับโดยตรง แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เธอต้องเสียชีวิตนั้น เกิดจากพิษแก๊สที่เธอนอนสูดดมเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาด แต่จะมีการผ่าชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในวันถัดไป ร่างของเธอได้ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขาวและส่งไปที่ห้องดับจิตทันที

ประมาณ 09.00 น. เศษ ในขณะที่ทัง เจิ้นเยี่ยยังนอนอยู่เขาได้ยินเสียงข้อความที่ทางบริษัท ทีวีบี ส่งเข้ามาทางเพจเจอร์ อย่างมากมาย จึงลุกขึ้นมาเปิดอ่านดู เมื่อทราบข่าวร้าย เขาจึงรีบรุดไปยัง โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" โดยทันที

10.00 น. ข่าวการเสียชีวิตของเธอถูกรายงานออกไป สร้างความตกใจให้แก่ผู้คนทั่วทั้งเกาะฮ่องกงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่กันอย่างมากมาย หลายคนเมื่อรู้ข่าวร้ายถึงกับซึมเศร้า และมีบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นที่ต้องสงสัยของตำรวจเป็นอย่างมากและหน่วยงานรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถึงขนาดสั่งให้ทางโรงพยาบาลห่อหุ้มศพของเธอด้วยฟอยล์ถึง 5 ชั้นคลุมร่างกายและปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งอีกที เพื่อป้องกันการถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และรอการชันสูตรศพต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง[61][62]

ประมาณ10.00 น. เศษ เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยไปถึงที่โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" มีทั้งนักข่าวและตำรวจได้มาถึงก่อนแล้ว ทัง เจิ้นเยี่ยปฏิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวทุกกรณี และเขาได้เข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อขออนุญาตดูศพผู้ตาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกลับปฏิเสธ เพราะถือว่าเขาเป็นแค่คนรู้จักไม่ใช่ญาติที่แท้จริง ต่อมาเขาจึงนั่งรถของตำรวจกลับไปยังห้องพักที่เกิดเหตุ

เวลา 11.15 น. ทัง เจิ้นเยี่ยนั่งซึมเหม่อลอยในที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ

14.00 น. มีการรายงานข่าวว่า ตำรวจสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดว่า องเหม่ยหลิงฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจาก รักเป็นพิษ ตามรายงาน จากคำให้การของ โจวซื่อหลุง เกี่ยวกับเหตุการณ์ 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตของเธอ และจากหลักฐานการพบข้อความที่เธอได้เขียนทิ้งไว้บนหน้าปฏิทินในห้องนั่งเล่นว่า "ที่รัก ฉันรักคุณ" Darling I Love You ทำให้ ทัง เจิ้ยเยี่ย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสาเหตุในการฆ่าตัวตายของเธอโดยทันที[63][64]

วันถัดมา 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ข่าวการเสียชีวิตของเธอ ถูกรายงานข่าวออกไปทั่วทวีปเอเชีย ทั้งในจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่ในประเทศเหล่านี้เป็นอย่างมาก

ข่าวลือเกี่ยวกับการเสียชีวิต

หลังจากการเสียชีวิตของเธอได้ไม่นาน ก็ได้เกิดกระแส ข่าวลือ ต่าง ๆ ออกมาพูดถึงกันอย่างมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ ประเด็นหลักคือ อง เหม่ยหลิง เองไม่ได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แต่อย่างใด จึงทำให้การเสียชีวิตของเธอเป็นที่สงสัยของผู้คนจำนวนมาก และได้กลายเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เธอเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดกันแน่ เพราะเธอเป็นดาราสาวที่มีอนาคตที่สดใสมาก และชื่อเสียงก็อยู่ในช่วงที่โด่งดังสุดขีด อีกทั้ง เธอเองก็มีนิสัยที่ร่าเริง สนุกสนานและมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก เลยทำให้มีแฟนละครของเธอจำนวนหนึ่งไม่เชือว่าเธอจะฆ่าตัวตายเพียงแค่ปัญหาความรักเพียงเรื่องเดียว และมีหลายต่อหลายคนคิดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ จึงกลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ และคาใจแฟนละครจำนวนมากของเธอมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งนักวิเคราะห์ ผู้คนและสื่อ ที่ต่างให้ความเห็นในการเสียชีวิตที่แตกต่างกันออกไป.[65][66]

  • บางคนสันนิษฐานว่ามันเป็น อุบัติเหตุจากแก๊สรั่วที่เธอลืมปิดเพราะคืนนั้นเธอกินเหล้าจนเมาและหลับไปเป็นเหตุให้ค่อย ๆ นอนสูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาดมากกว่าการที่เธอจะตั้งใจฆ่าตัวตาย
  • บางคนสันนิษฐานว่าการฆ่าตัวตายของเธอ เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตัวตายไปจริง ๆ
  • มีข่าวลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ว่า มีแฟนคลับของ องเหม่ยหลิง คนหนึ่ง สามารถติดต่อสื่อสารกับดวงวิญญาณของเธอได้ และได้เล่าถึงรายละเอียดในคืนที่เกิดเหตุว่า จริงๆ เดิมทีตอนที่ อง เหม่ยหลิง คิดจะฆ่าตัวตายนั้น เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียชีวิตลงไปจริง ๆ เพียงแต่คืนนั้นเธอต้องการที่จะทำให้ ทัง เจิ้นเยี่ย ตกใจจะได้รีบมาหาเธอ และปรับความเข้าใจกัน แต่เพราะความประมาทของเธอในครั้งนี้ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เลยทำให้เธอต้องเสียชีวิตไปจริง ๆ
  • บางคนสันนิษฐานว่าเธอฆ่าตัวตาย เพราะสื่อ เพราะระยะหลัง ๆ นี้ เธอโดนมรสุมข่าวลืออย่างมากมาย สาเหตุเพราะ สื่อมักจะชอบเขียนข่าวลือด้านลบในเรื่องความรักของเธอมากกว่าเรื่องงานละคร ที่เธอทุ่มเท จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัด และไม่พอใจ กับข่าวลือที่สื่อเขียนออกมา และเพราะสื่อนี้เองที่ทำให้ความรักของเธอมีปัญหาจนมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเวลามีข่าวที่ทำให้เธอไม่สบายใจ เธอก็ไม่สามารถระบายความทุกข์ ให้กับใครได้เลย เพราะเธอไม่มีญาติ หรือเพื่อนสนิทมากพอที่จะระบายความทุกข์ได้
  • ข่าวลือที่พูดกัน อย่างมากอีกข่าวคือ เธอเป็นลูกสาวลับ ๆ ของอดีตดาราสาวชื่อดังยุค ชอว์บราเดอร์ ที่ชื่อว่า หลิน ฟ่ง (林鳳 Patrica Lam Fung) ส่วนแม่ที่เลี้ยงดูเธอมานั้นไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอ จึงทำให้เธอเติบโตมาขึ้นมาในชีวิตวัยเด็กที่ขาดความรักความอบอุ่น และทำให้เธอแสวงหาความรักเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจได้ปันใจให้คนอื่นและกำลังจะทิ้งเธอไป เธอเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย[67]
  • ข่าวลืออีกข่าวคือ เธอโดนฆาตกรรมจากใครบางคน เพราะมีข่าวลือว่า มีนักแสดงสาวรุ่นเดียวกันกับเธอบางคนที่ไม่ชอบเธอเพราะอิจฉาในความโด่งดังของเธอ เลยหาวิธีกำจัดเธอให้ออกไปจากเส้นทางในวงการบันเทิง
  • มีข่าวลือออกมาว่าเธออาจถูกฆาตกรรมจากคนที่เป็นหนี้เธอ หรือตัวเธอเองอาจจะฆ่าตัวตายเพราะปัญหาเรื่องเงิน เพราะตอนที่เธอเสียชีวิต แม่ของเธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอเหลือเงินในบัญชีแค่ 150 เหรียญ (689บาท) เท่านั้นเอง สาเหตุมาจาก อง เหม่ยหลิงเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไป เวลาที่คนในวงการบันเทิงที่เธอรู้จักเดือดร้อน เธอมักจะนำเงินที่มีอยู่ไปช่วยเหลือเพื่อน ๆ และคนรู้จักทั้งในและนอกวงการเสมอ.[68]
  • บางคนก็สันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมจากพวกมาเฟีย ที่ขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจจอแก้วในวงการบันเทิง สาเหตุเพราะในสื่อของฮ่องกงต่างมีนายทุนที่เป็นพวกมาเฟียอยู่เบื้องหลัง[69]
  • ข่าวลือที่สร้างความตกใจให้แก๋ผุ้คนอีกข่าว คือ เธอถูกข่มขืน โดยผู้ชาย 3 คน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ว่ากันว่า เจ้าแม่รายการทีวี เสิ่น เตี้ยนเสีย เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง (อ้างอิงจาก) [70][71] [72]
  • ข่าวลือบางข่าวออกมาว่า เธอฆ่าตัวตายเพราะความเครียดและความกดดัน ในเรื่องงานแสดง สาเหตุมาจากในระยะหลัง เธอมักโดนวิจารณ์ว่าบทที่เธอได้รับในระยะหลัง ๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจจากคนดูเท่าที่ควร และความดังของเธอก็เริ่มถูกดาราสาว จาง ม่านอวี้ ขึ้นมาได้รับความนิยมเทียบเคียงกับเธอจนมีข่าวซุบซิบออกมาว่าชื่อเสียงและความนิยมในตัว อง เหม่ยหลิงเริ่มขาลง แต่แฟนละครของเธอส่วนใหญ่ไม่เชื่อข่าวลือนี้ ว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอคิดฆ่าตัวตายได้ เพราะในช่วงเวลานั้น ทั้งชื่อเสียงและงานแสดงของเธอ ก็ยังได้รับความนิยมจากคนดูอยู่
  • ข่าวลือว่า เธอถูกอาถรรพ์บั่นทอนอายุในละครเรื่อง 3 ก๊ก ตอน ศึกสองแผ่นดิน ที่เธอได้มีโอกาสได้เล่นรับเชิญเป็นตัวละคร อิงประวัติศาตร์ ที่มีอยู่จริงตามตำนานและต้องเสียชีวิตในเรื่อง ซึ่งระหว่างการถ่ายทำมีคุณป้าท่านหนึ่งที่ร่วมแสดงด้วยในละครเรื่องนี้ ได้นำผ้าสีแดงมอบให้แก่เธอเพื่อให้เธอได้พกติดตัวตลอดการถ่ายทำซึ่งทางธรรมเนียมจีนถือว่าเป็นการแก้เคล็ดเพื่อไม่ให้นักแสดงถูกอาถรรพ์จากละครเรื่องนี้ แต่เธอไม่เชื่อเพราะเธอเป็น คริสเตียน เลยไม่รับผ้าแดงนั้น ต่อมาไม่นานก็มีข่าวร้ายว่าเธอได้เสียชีวิตลง
  • หนึ่งในข่าวลือส่วนใหญ่ที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ก็คือ การฆ่าตัวตายของเธอเป็นผลมาจาก โรคซึมเศร้า ที่เธอเป็นโดยไม่รู้ตัวมากกว่าการผิดหวังในเรื่องของความรัก.

บทสัมภาษณ์ที่สวนทางกับการฆ่าตัวตาย

  • เธอเคยให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุฮ่องกง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2528 เมื่อมีการถามถึงข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับทัง เจิ้นเย่ อง เหม่ยหลิง ได้อธิบายว่า[73]

    ...เขาเป็นเพียงเพื่อนที่รู้ใจเท่านั้นและฉันก็เคารพหน้าที่การงานของเขา

  • จากการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนนักแสดงที่ร่วมงานกับเธอ เล่าว่า [74] ก่อนวันที่เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้น

    อง เหม่ยหลิง... เธอดูร่าเริงและดูเป็นปกติดีเหมือนทุกครั้ง และไม่มีวี่แววว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตายเลย

  • อง เหม่ยหลิง ยังให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเกี่ยวกับอนาคตของเธอ ประมาณสองสัปดาห์ก่อนการเสียชีวิตของเธอว่า[75]

    ดิฉันมีความสุขดีในช่วงเวลานี้ค่ะ...เพราะในอนาคตดิฉันกำลังจะมี โปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ ที่ทางบริษัท (TVB) จะมอบหมายให้ดิฉันทำ

  • ประมาณ 1 เดือน ก่อนเธอจะเสียชีวิต เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เมื่อเธอถูกนักข่าวถามว่า คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับดารารุ่นพี่ที่เคยฆ่าตัวตายเพราะความรัก เธอตอบเพียงสั้น ๆ ว่า[76]

    การฆ่าตัวตายเพียงเพราะปัญหาความรักเป็นเรื่องที่โง่และน่าเสียดายมันไม่คุ้มค่ากับการแลกชีวิตกับคนที่หมดรักเราแล้วและตัวดิฉันเองก็ไม่คิดที่จะทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอนเพราะเสียเวลาเปล่า ๆ อีกอย่างดิฉันกลัวตายค่ะ

พิธีศพ

พิธีศพของ อง เหม่ยหลิง ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เทียบเท่าพิธีศพของอดีตราชินีจอเงินชื่อดัง ยุค ชอร์บราเดอร์ หลินไต้ มีประชาชนในฮ่องกงกว่า 100,000 คน(อ้างอิงจาก [77][78]) ไปร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอมากเป็นประวัติศาสตร์ รวมถึงดาราดังอย่าง 5 พยัคฆ์ทีวีบี เช่น หวง เย่อหัว, เหมียว เฉียวเหว่ย, เหลียง เฉาเหว่ย, หลิว เต๋อหัว และ ทัง เจิ้นเยี่ย พวกเขาได้แบกโลงศพของเธอเพื่อนำไปฌาปนกิจ และยังมีดาราดังคนอื่น ๆ อีกมากมายมาร่วมงานศพของเธอ อาทิเช่น จาง ม่านอวี้, หลิว เจียหลิง, เฉินหลง, อลัน ทัม, เหมย เยี่ยนฟาง, เจ้าหย่าจือ, เจิ้ง อวี้หลิง, หวงเจ้าสือ, เยิ่น ต๊ะหัว เป็นต้น อีกทั้งยังมีดาราสาวดาวรุ่งที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียง เช่น เจิ้ง หัวเชียน และ กง ฉือเอิน ฯลฯ ต่างมาร่วมอาลัยต่อการจากไปในพิธีศพของเธออีกด้วย ร่างของเธอฝังไว้ที่ เมืองเคมบริดจ์ ณ. สุสาน New Market Cemetry ลอนดอน ในประเทศอังกฤษ. [79](YouTube, Fan Video, 2007).

แหล่งที่มา

WikiPedia: อง_เหม่ยหลิง http://www.jomyut.club/index.php/news-update/enter... http://www.360doc.cn/article/7986_246877.html http://m.8794.cn/baoliao/2014/8360_4.html http://m.artsuniversity.com.cn/mobile/big5/school-... http://media.people.com.cn/n1/2016/0618/c40606-284... http://blog.sina.com.cn/s/blog_62485ccd0100i69o.ht... http://ent.sina.com.cn/r/i/2005-05-13/1343722941.h... http://www.china.org.cn/top10/2011-07/21/content_2... http://blog.sina.cn/dpool/blog/s/blog_702798e30102... http://blog.sina.cn/dpool/blog/s/blog_936c483b0102...